วิ่งแล้วคัน

มีคนอ่านถามเรื่องนี้มา ก็รู้สึกว่าน่าจะมีหลายคนที่สงสัยเรื่องนี้นะคะ ไหนๆเขียนเรื่องชักชวนให้มาวิ่งแล้ว เราต้องแก้โจทย์ให้นักวิ่งหน้าใหม่ด้วยค่ะ เพราะส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับคนที่พึ่งเริ่มวิ่ง
.
เคยหรือไม่คะว่า เราไม่ได้ออกกำลังกายมานาน หรือวันดีคืนดีอยากลุกขึ้นมาวิ่งมาออกกำลังกาย แล้วก็มีอาการคัน ยุบยิบ ยุบยิบ
.
มีสาเหตุอยู่หลายสาเหตุนะคะที่เราคันตามขา ตามตัว (คันปาก คันทีนไม่นับนะคะ) นอกเหนือไปจากยุงกัด มดกัด แพ้ผงซักฟอก แพ้เหงื่ออะไรพวกนี้ค่ะ อันนั้นเราคงรู้มาตั้งแต่ก่อนวิ่งแล้วล่ะ เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เราคงเคยเหงื่อแตกมาบ้าง
.

1. การหมุนเวียนของเลือด (Blood circulation)
.
ปัญหาคันแบบนี้เป็นปัญหาของคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายมานาน หรือพึ่งมาเริ่มออกค่ะ พอวิ่ง ขยับตัว เลือดก็พุ่งเดิน heart rate ก็แรงเพราะไม่ค่อยฟิต หัวใจก็เต้นแรงเป็นธรรมดา เต้นแรงก็ปั๊มเลือดแรง เส้นเลือดฝอยที่อยู่ตามกล้ามเนื้อก็เริ่มขยายตัวรองรับเลือดที่เดินอย่างพลุ่งพล่าน
.
ถ้าเราฟิต เส้นเลือดพวกนั้นก็จะแข็งแรงพอที่จะเปิดกว้างรอเลือดผ่าน แต่ถ้าเราไม่ฟิต เส้นเลือกฝอยเหล่านั้นก็จะไม่มีแรงเปิดกว้างให้เลือดผ่านได้สะดวก ประสาทรอบๆกล้ามเหล่านั้นก็จะส่งสัญญาณไปสมอง สัญญาณนั้นสมองเข้าใจว่าเป็นอาการคันค่ะ ถ้าออกกำลังกายบ่อยขึ้น ให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้นก็จะหายค่ะ
.
อาการนี้แก้ไม่ยากเลยค่ะ วิ่งไปเป็นปกติ ทนหน่อยนะคะ 2-3 ครั้งก็ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ
.
2. ลมพิษ (Urticaria หรือ Hives)
.
นี่คือชนิดที่ไม่ใช่โรค แต่เหมือนโรค คือหายเองได้ไม่ต้องรักษาอะไร เป็นอาการที่เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารที่เราแพ้ ซึ่งก็จะแสดงออกทางผิวหนัง จะเป็นผื่นบวมนูน สีออกขาว ล้อมรอบด้วยผื่นสีแดง จะคันมากๆ มากกว่าแบบแรกนะคะ อาจจะรู้สึกแสบร้อนที่ผื่นด้วยค่ะ
.
สาเหตุที่เกิดก็มาจากความเย็น ความร้อน แสงแดด การสั่นสะเทือน (วิ่งก็สั่นนะคะ) การกดทับ การขูดขีดที่ผิวหนัง (อาจจะจากเสื้อผ้า หรือตะเข็บ) หรือจากการที่อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น เช่น จากการออกกำลังกาย การวิ่ง
.
ลมพิษประเภทนี้จะหายเองค่ะ ประมาณ 10 นาทีหลังการวิ่ง แต่อาจจะยืดเยื้อไปอีกนิดนึง แต่ไม่น่าจะเกิน 24 ชั่วโมงค่ะ ถ้าเกินแปลว่าไม่ใช่แล้วล่ะ
.
3. อาการแพ้ขั้นรุนแรงจาก exercise-induced anaphylaxis
.
อาการจะคล้ายๆลมพิษข้อที่แล้ว แต่ที่เพิ่มมาคือ อาการที่เริ่มหายใจลำบาก ติดขัด อาจจะมีอาการอาเจียน อาการเหมือนจะเป็นลมตามมาอีกนะคะ
.
ถ้ายังฝืนต่อไป (อ๋อ เป็นไปได้ค่ะ นักวิ่งใจกล้ามีเยอะมาก) ก็อาจจะปิดกั้นอ็อกซิเจนไปเลี้ยงสมองและหัวใจค่ะ อันตรายถึงตายได้นะคะแบบนี้
.
สำหรับบางคน อาการนี้เกิดจากการออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไป (vigorous exercise) บางคนเกิดจาก การออกกำลังกาย ผสมกับอาหารบางอย่างที่กินเข้าไป แต่อย่าได้กลัวนะคะ ตามรายงานทั่วไป มีคนตายจากสาเหตุนี้ 1000 คนในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 1970 and 2008 คือ 38 ปีมีแค่ 1000 รายจากประชากร 300ล้านคน ของอเมริกานี่ไม่เยอะหรอกค่ะ
.
4. อาการแพ้จากความเย็น (cold urticaria)
.
อาการจะคล้ายๆลมพิษ ข้อ 2 นะคะ จะเกิดขึ้นเวลาวิ่งในที่ที่มีอากาศเย็น แต่มือจะบวมด้วยค่ะ ถ้าฝืนวิ่งต่อไป ก็จะเกิดอาการหนาวสั่น หัวใจเต้นเร็ว นอกจากมือบวมแล้ว แขนขาก็อาจจะเริ่มบวมตามมาด้วยค่ะ
.
การป้องกันก็อาจจะทำได้ด้วยการ อุ่นเครื่องร่างกายอย่างน้อย 10 นาทีก่อนวิ่ง อุ่นจริงๆนะคะ ไม่ใช่ทำตามประเพณีไปเรื่อยๆ
.
จากประสพการณ์เวลาที่อากาศเย็นมากๆ หรือ ใกล้ๆ 0 องศานี่ การอุ่นร่างกายใช้เวลานานมากค่ะ บางครั้งวิ่งไปเกือบๆ 6-7 กิโลกว่าเครื่องจะติดค่ะ
.
อาการแพ้ทั้งหมดนั้น เป็นเองหายเองได้หมดค่ะ ยกเว้น exercise-induced anaphylaxis ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เกิดไม่ค่อยบ่อยหรอกค่ะ แต่เกิดได้
.
ดูแลตัวเองนะคะ และกรุณาเกาให้ถูกที่คันค่ะ

Ref: Runner’s World Complete Book of Running: Everything You Need to Run for …
By Amby Burfoot

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *