วิ่งอย่างไรให้เป็น Fartlek

อีกทางหนึ่งในการฝึกวิ่งเร็วนอกเหนือจากการวิ่งคอร์ท (interval training) ก็คือการวิ่งแบบ Fartlek ภาษาไทยเรียกกันว่าอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า Fartlek เป็นภาษาสวีดิช แปลว่า speed play

‘เล่นกับความเร็ว’ มั้งคะ ประมาณนั้น

Fartlek เป็นการวิ่งแบบไม่มีกฎเกณฑ์ รูปแบบอะไรมากมาย(random) มากเลยนึกจะเร่งก็เร่ง นึกจะหย่อนก็หย่อนได้ จริงๆแล้วที่มาคือ เหมาะกับการวิ่งเทรล ในป่าเขา ที่มีเนินสูงต่ำ ชัน แอ่งน้ำอะไรต่อมีอะไร เพราะฉะนั้นเราก็จะวิ่งในความเร็วที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติ คือเราไม่ใช่ตัวกำหนด เราวิ่งตามตัวแปรที่เราควบคุมไม่ได้ แต่พยายามให้เร็วเท่าที่สถานการณ์อำนวย ว่างั้นเถอะ

เราฝึกอะไรกับการวิ่งแบบนี้?

ฝึกความคล่องตัวในการเปลี่ยนตำแหน่ง (agility) ฝึกความเร็ว ฝึกกล้ามเนื้อหัวใจ ในเวลาที่เราวิ่งเร็วฝึก การมีสติตั้งตัว ออกตัว (reaction time) การ กระโดด ข้ามแอ่งน้ำ การหลบกิ่งไม้ที่เหวี่ยงมาจากที่สูง ฝึกการทรงตัว(balance) การวิ่งบนผิวเรียบไม่เรียบ ยวบยาบ ลื่นไถล ไม่ใช่ลู่สนามอย่างเดียวเพราะฉะนั้น นอกจากจะเหนื่อยกาย กล้ามเนื้อเล็กที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็จะได้ใช้หมด ตั้งแต่เกร็ง หยุดเบรค กระโดด หมุนตัวเปลี่ยนทิศแล้ว โฟกัสต้องมี สมาธิต้องมา

จะมีประเทศใด ที่เหมาะไปกว่าประเทศไทยอีกเนี่ย ภัยเรามาได้ทุกด้าน sprint ขึ้นสะพานลอย sprint ลงสะพาน กระโดดข้ามท่อ หลบสายไฟที่ห้อยลงมา แต่ดูทิศทางหน่อยแล้วกันนะคะอย่ามาวิ่งแบบนี้ในเมือง ในช่วงที่ชาวบ้านเดินทางไปทำงาน อะไรกัน ไปวิ่งแบบนึ้ในที่ๆไม่ค่อยจะวุ่นวายมากนักนะคะ หรือเวลาเรามีโอกาสไปต่างจังหวัด ไปป่าดอย ก็ทำได้

การฝึกชนิดนี้นอกจากเป็นการฝึกทางร่างกายแล้ว ยังเป็นการฝึกทางจิตใจด้วย เราสามารถกำหนดรูปแบบและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ได้เป็นการเฉพาะตัว ไม่ต้องการ เพราะวิ่งหนักนะคะ เพสต้องหนักพอสมควร 40นาทีก็พอค่ะ เราฝึกหลายอย่างปนกันไป ไม่ได้วิ่งทางเรียบอย่างเดียว

หรือถ้าไม่ค่อยสะดวกจะวิ่งนอกสนามซ้อม แล้วจะวิ่งยังไงให้เป็น Fartlek ลองอย่างนี้ค่ะ แบ่งสนามออกเป็นส่วนๆ จากตรงนี้ถึงเสาไฟฟ้าต้นโน้นฉันจะวิ่งเร็วสุดขั้วไปจนถึง ส่วนนี้จนถึงถังขยะข้าวหน้าจะวิ่งกลางๆ บางส่วนจะวิ่งช้าลงพอให้หัวใจเต้นช้าลงนิด แล้วเริ่มใหม่ แบบนี้ก็ได้

หรือถ้าวิ่งเป็นกลุ่ม ก็ผลัดกันเป็นคนนำลากกันไป แต่ละคนเพสไม่เท่ากัน แต่คนตามต้องพยายามตามให้ทันเพสนั้น คนวิ่งช้าก็นำได้ (ถือเป็นช่วงrecovery ของขาแรงในกลุ่ม) ลากกันไปตามเพสผู้นำไป ทำให้เกิดความแปรปรวนไม่แน่นอนในเรื่องของความเร็วไปตลอดทาง

ฝึก Fartlek ไปทำไม?

สนุกนะคะ ไม่จำเจ เหมาะกับกลุ่มนักวิ่งที่มีคนที่มีเพสต่างๆกันออกไป หรือถ้าวิ่งคนเดียวก็เหมาะกับการซุกซนไปเรื่อยๆ หาที่ที่มีความสูงตำ่บันได เนินภูเขาอะไรไป ยิ่งต่างมากยิ่งดี ท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ เป็นการฝึกทักษะทางประสาทมากกว่าการวิ่งในกรอบ มีรูปแบบกำหนดตายตัวจำแจ

บางทึไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศก็เป็นวิธีที่ทำให้รู้จักเมืองเค้าได้ดีไปกว่านั่งรถ นั่งรถไฟอีกค่ะ ทำบ่อย แต่ถ้าไม่คุ้นก็หาใครไปวิ่งเป็นเพื่อนนะคะ

เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อะไรบ้างก็ดีน้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *