วิ่งในประเทศ แค่ต่างเมืองนี้ก็เครียดพอแล้วนะคะ แต่วิ่งต่างประเทศนี่อีกทวีคูณ แต่เป็นคนที่บินไปวิ่งต่างประเทศมาหลายครั้งพอดู เวลาก็ไม่ค่อยจะมีมาก ส่วนใหญ่จะไปก่อนวิ่งแค่ 2-3 วัน
เพื่อเป็นการป้องกันความฉุกละหุก ก็จะมีเช็คลิสต์ ที่ทำเอาไว้ เตือนตัวเอง เอามาแบ่งกันนะคะ (ได้ข่าวว่า Tokyo Marathon กำลังจะมาถึง)
++++++++++++++++++++++
ของจำเป็น
– เบอร์ Bib
– Race entry information เอาไปทั้งซองเลย ในนั้นจะมี สถานที่ที่รับ bib and time chip, สถานที่วิ่ง,gate, block และ ใบรับ bib (ถ้ายังไม่ได้ race information ก็เอา email พร้อมเบอร์นักวิ่งที่อยู่ใน email รวมทั้ง พาสปอร์ต เอาไปที่ expo เพื่อไปติดต่อรับ bib)
– พาสปอร์ต ตั๋วเดินทาง
– เงิน สกุลนั้น อย่างน้อยให้พอค่า taxi ไปโรงแรมได้ (เช็คได้ทางอินเตอร์เน็ต ว่าประมาณเท่าไหร่ หรือemail ถามโรงแรมเอา) ถ้ามีเหรียญเอาติดไปด้วย โดยเฉพาะถ้าคิดจะนั่งรถไฟ (ยุโรป)
– มือถือ ทำroaming หรือซื้อsim ให้เรียบร้อย
– ยาประจำตัว ยาแก้อักเสบ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวด
-ปลั๊กและสายช้าร์ตนาฬิกา และ โทรศัพท์ เช็คด่วนว่าใช้ปลั๊กกี่ตา ซื้อไปเลย อย่าหวังน้ำบ่อหน้าค่ะ
– Epsom salt บางครั้งเป็นคนเยอะ วิ่งเสร็จจะต้องแช่น้ำอ่างใส่ Epsom salt เพื่อคลายกล้ามเนื้อ เพราะปกติจะขึ้นเครื่องกลับเลยวันรุ่งขึ้น และเดินทางคนเดียวค่ะ จะคลายกล้ามเนื้อได้ดีมาก ซื้อได้ตามร้านขายยา
++++++++++++++++++++++
อุปกรณ์วิ่งมาราธอน
อย่าคิดว่าบ้า ของวิ่งมาราธอนที่จะเขียนถึงต่อไปนี้ บอกเลยว่าถือขึ้นเครื่องค่ะ ไม่เคยโหลด เพราะไม่ไว้ใจสายการบิน และไม่มีเวลารอ
ถ้าเกิดข้อผิดพลาด เช่นกระเป๋าหาย กระเป๋าดีเลย์ ถ้าต้องไปซื้อใหม่ ไม่รู้ว่ามีความไม่สบายตัวแค่ไหน อย่างไร จะเครียดมาก
– รองเท้าคู่ที่ดีที่สุดสำหรับวิ่งทางไกล คู่ที่ใส่ซ้อมมานั่นแหละค่ะ
– ถุงเท้าวิ่งคู่เก่ง
– กางเกงวิ่งตัวเก่งมาก
– เสื้อวิ่งตัวเก่งที่สุด
– Jacket เบากันลมกันน้ำ หรือ body warmer ใส่วิ่งค่ะ ถ้าหนาว
– เข็มกลัด
– เจลแบบเคี้ยวที่จะกินระหว่างวิ่ง จะเอาเป็นเจลเลยก็ได้แต่ซองนึงต้องไม่เกิน 100g (ไม่งั้นโดนห้ามเอาขึ้นเครื่อง) และเตรียมตัวแยกใส่ถุงใส ใว้เลย
– นาฬิกาวิ่ง ใส่ขึ้นเครื่อง
-กาะเป๋าคาดเอว ใส่วิ่งด้วย เอาใว้ใส่ เจล ใส่เงินค่า taxi ขากลับ
++++++++++++++++++++++
ของจำเป็นอย่างอื่น
– หมวกวิ่ง ลองก่อนว่าไม่บีบหัว
– ถุงมือ
– แว่นกันแดด
– ยากันแดด
– resistance band เอาใว้ยืดเหยียด ถ้ามีที่จะเอา foam roll ไปด้วย
– รองเท้าแตะ (ส่วนตัวจะชอบของ OOFOS) ใว้ใส่วันรุ่งขึ้น หรือเย็นนั้น
++++++++++++++++++++++
ก่อนและหลังวิ่ง
– เอาเสื้อฝนหรือ poncho เตรียมใว้ก่อนวิ่ง บางที่มีแจก แต่ไม่มีที่สวมหัวให้ มีแต่ตัว
– เสื้อวอร์มอุ่นๆ ผ่าหน้า ถอดง่าย สามารถทำใจโยนทิ้งข้างทางได้ ในรูปจะเห็นใส่เสื้อวอร์มเทา นั่นโยนทิ้งไปแล้วค่ะ ส่วนใหญ่พวก charity จะมาเก็บไปจากข้างทาง ถือว่าทำบุญนะคะ (เอาทุกทางให้วิ่งดี ผลบุญส่งก็เอา)
– เป้น้ำ บางที่มี แต่คิวยาว บางทีห่างกันเกิน จะได้ไม่ต้องอดทนอะไรทั้งนั้น หิวน้ำก็ทีกินทันที
– เป้ใส่ของ เอาฝากได้ที่งานสำหรับเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน อย่าได้ทน วิ่งเสร็จแล้วหนาวมาก เดี๋ยวเป็น hypothermia ไม่ได้พูดเล่นนะคะ
– ในเป้จะมี Vaseline
– พลาสเตอร์ปิดแผล
++++++++++++++++++++++
เมื่อไปถึง
ถ้าเปลี่ยนโซนเวลา ขอให้ตื่นมาวิ่งในเวลาเดียวกับที่จะวิ่ง ซักวันนึง ไม่ต้องวิ่งเยอะ เพื่อปรับตัวเข้ากับเวลาที่จะวิ่ง
ลองใส่เสื้อที่ตั้งใจว่าจะวิ่ง ถ้าซักทันว่า อุ่นร้อนพอหรือไม่ ถ้าเป็นมาราธอนแรกอย่าตื่นเต้นกับเมืองมากนัก ถนอมขานิดนึง นี่เตือนตัวเองด้วยนะคะ เคยเดิน 28กิโล วันก่อนวิ่งมาแล้ว
ก่อนวันวิ่งทดลองออกเดินทางจากโรงแรมไปสถานที่วิ่ง ดูว่าไปยังไง ใช้เวลานานแค่ไหน วันจริงจะได้กะเวลาออกจากโรงแรมได้ถูก
ชอบไปถึงประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเวลา จะได้เดินดูงาน บางงานระบบความปลอดภัยเข้มข้นมาก ใช้เวลาตรวจกระเป๋านาน คิวยาว คิวห้องน้ำก็ยาว ไปเดิน warm up ให้หายตื่นเต้นก็ดีนะคะ
พยายามดูเมือง เทียบกับดูแผนที่วิ่ง เพราะว่า เวลาวิ่งจะได้มีจุดสังเกต landmark ว่าเราอยู่ไหนถึงไหนแล้ว จุดไหนจะมีน้ำ เค้าจะบอกในแผนที่นะคะส่วนใหญ่ ถ้าเป็น หนึ่งในหก World marathon นี่ยิ่งบอกค่ะ จะจำได้เองแหละ
ถ้าต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ถ้าเป็นไปได้ให้กลับอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังวิ่งนะคะ เพราะเส้นเลือดมันยังอักเสบอยู่เลย
กรุณาอย่าใช้ของใหม่ เสื้อใหม่ รองเท้าใหม่ ถุงเท้าใหม่ หรือ เจลที่ไม่เคยกินนะคะ
เท่าที่จำได้มีเท่านี้ ใครมีอะไรเพิ่มเติมบอกมาได้นะคะ บางทีตื่นเต้นกับทริป ลืมหมดเลยก็มีค่ะ
เคยเป็น….